ดูผลงานคลิ๊กที่ลิงค์ค่ะ

สอบถามรายละเอียด โทร 083-5666259 caidirect@hotmail.com

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รับทำ CAI

สวัสดีค่ะ ผู้มี CAI ในหัวใจทุกท่าน สำหรับวันนี้ก็ใกล้วันปีใหม่เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ ใครที่ยังตัดสินใจว่าจะทำอะไรแล้วไม่ได้ทำก็รีบ ๆ ทำได้แล้วนะคะ อะไรที่ผิดพลาด ผิดหวังในปีที่ผ่านมา ก็ขอให้ถือว่าเป็นครูของเรา ถึงแม้ว่าเราจะเป็นครูก็ตามค่ะ ไม่มีใครทำอะไรได้ถูกต้องเสมอไป
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสได้ไปวิปัสนาที่ วิเวกอาศรม ที่จังหวัดชลบุรีค่ะ เป็นอะไรที่อิ่มอกอิ่มใจมาก การวิปัสนาไม่ใช่นั่งสมาธิแล้ว หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ นะคะ การวิปัสนาคือการดูอารมณ์ตัวเองค่ะ เราเอาสติไปจับไว้ที่พุง ยุบหนอ พองหนอ เมื่อใดก็ตามที่ความคิดต่าง ๆ ผ่านเข้ามา เราก็ต้องเอาสติไปจับความคิดค่ะ เมื่อความคิดหายไป เราก็กลับไปยุบหนอพองหนออีกครั้ง การวิปัสนาในครั้งนี้ของดิฉัน ถือเป็นครั้งแรก แต่ก็จะไม่ลืมเลยค่ะ ทำให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การประกอบธุรกิจด้วยความดี ทำให้จิตใจเราเป็นสุขค่ะ เมื่อเราได้เห็นคนที่เราช่วยเหลือมีความสุข ก็ทำให้เรามีความสุข ลูกค้าหลาย ๆ ท่านประสบปัญหาผ่านมาให้เราช่วยเหลือ โดนโกงมาบ้าง โดนหลอกบ้าง เราก็ช่วยเหลือด้วยจิตเมตตา ปราถนาให้ท่านทั้งหลายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำให้ทราบในทุก ๆ ครั้งที่ผลงานผ่านการประเมิน อาจารย์แต่ละท่าน ก็ต่างโทรมาขอบคุณ แค่นั้นดิฉันก็มีความสุขมาแล้วล่ะค่ะ
ในวาระอันเป็นมงคลนี้ ก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ขออวยพรให้อาจารย์ และลูกค้าทุกท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานค่ะ ส่วนดิฉัน ก็ยังรับทำ cai ในราคาย่อมเยาว์อยู่เสมอค่ะ

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทศกาลแห่งความสุข

เทศกาลแห่งความสุข เทศกาลแห่งความรื่นเริงยินดี หากกล่าวถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของปี ต้องนึกถึง คริสมาสต์และปีใหม่ค่ะ ถึงแม้ว่าตัวดิฉันเองจะเป็นชาวพุทธขนานแท้ แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ออกจากสังคมโลกที่หลากหลายอารยธรรมใบนี้ ดิฉันเปิดรับข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เสมอ หากข้อมูลนั้นจะมีประโยชน์ต่อแนวคิด การดำเนินชีวิตของเรา
มาเข้าเรื่องราวของ cai กันบ้างดีกว่าค่ะ cai ยังไม่ได้ห่างหายจากวงการศึกษาไทยนะคะ เนื่องด้วยขณะนี้ ระบบ E-Learning ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ต่อวงการศึกษาไทย แต่ยังไงซะ มันคงเป็นไปได้ยากมาก ที่จะครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย ในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งช่วงเวลาที่สุดแสนเลวร้ายของการเมืองไทย คนไทยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย รัฐก็คงจะไม่มีเวลามาทำอะไรแบบนี้หรอก อย่างดีคงทำได้เพียงทำให้คนไทยได้รับการศึกษาให้สูงที่สุด ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว(ขออภัยที่พูดเรื่องการเมือง)
ฉะนั้น บทสรุปจากประสบการณ์ของดิฉันก็คือ CAI ยังเป็นสื่อที่เป็นอมตะ คุณสามารถพกพาแผ่น CD แผ่นเดียว ไปศึกษาที่บ้าน ทบทวนบทเรียนต่าง ๆ หลังจากกลับมาจากโรงเรียน เท่านี้เองค่ะ สื่อการสอน cai ก็จะเป็นสื่อที่ทรงประสิทธิภาพได้แน่นอนค่ะ

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รับทำcai เชียงใหม่

เกริ่นถึงประวัติของ cai กันซักเล็กน้อย
-แนวคิดในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ทางการศึกษาเริ่มขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปลาย ค.ศ. 1950 ถึงต้นปี ค.ศ. 1960 นำมาใช้ในด้านการเรียนการสอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนที่เรียนไม่ทันคนอื่นในชั้นเรียนได้เรียนซ่อมเสริมนอกเวลาเรียน แต่บทเรียนแบบโปรแกรมยังใช้หนังสือเป็นตัวนำเสนอ ซึ่งทำให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย
ช่วงต้นปี ค.ศ. 1960 มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ดและมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ได้นำเอาคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอน โดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการฝึกฝนทักษะด้าน คณิตศาสตร์และการใช้ภาษาของเด็กในระดับประถมศึกษา ส่วนมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนไม่จำกัดเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์และภาษาไทยเท่านั้น แต่ใช้ครอบคลุมไปเกือบทุกวิชาและใช้ได้กับผู้เรียนในวัยเด็กและสิสิตนัก ศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ว่าฮาร์ดแวร์และซอฟ์ตแวร์ที่ใช้มีลักษระตายตัว คือจะต้องเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับระบบนี้โดยเฉพาะและต้อง เขียนโปรแกรมด้วยภาษาติวเตอร์ (TUTOR) เท่านั้น
ต่อมา ค.ศ. 1971 มหาวิทยาลัยบริกคัมยังและเท็กซัส ได้คิดพัฒนานำโปรแกรม CAI มาใช้กับมินิคอมพิวเตอร์ โดยผสมคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์เข้าด้วยกัน ผลิตออกมาเป็นรายวิชาทาง
คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ โปรแกรมนี้ชื่อว่า ทิกซิต (TICCIT : Time Share Instructive Computer Controller Information Television) นับเป็นโปรแกรมที่ประสบความสำเร็จพอสมควร

ต่อข้อคำถามที่ว่า ทำไมหัวข้อนี้ ถึงต้องรับทำcai เชียงใหม่ด้วย เนื่องมาจาการทดสอบการค้นหาของ Search Engine ที่ชื่อว่า Google ค่ะ ปรากฎว่า เมื่อ Search คำว่า รับทำcai เชียงใหม่ ไม่ปรากฏผลการค้นหาของบล็อกแห่งนี้ค่ะ จึงจำเป็นต้องเพิ่มคีย์เวิร์ด เพื่อเพิ่มลูกค้าซักเล็กน้อย จริง ๆ แล้วด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ล้ำสมัยซะจนโลกนี้ไร้ขอบเขตไปเสียแล้ว การนัดส่งงานดูงานกัน ไวกว่าจรวดอีกค่ะ แม้แต่ลูกค้าที่นัดดูงานกันใน กทม. ยังไม่เร็วเท่าการอัพโหลดไฟล์ให้ ลูกค้าต่างจังหวัดดู เพราะว่า กทม. รถติดมากค่ะ กว่าจะถึงที่นัดหมาย บางที 2-3 ชม.กว่าจะเจอกัน

ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ อยากจะทำ cai ง่ายนิดเีดียวค่ะ

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Winter is coming

เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วนะคะ ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ มาวันแรกทนพิษความเย็นไม่ไหว ไข้จับเลยค่ะ ต้องรีบไปหาหมอเลยกลัวหวัด2009 มากค่ะ โชคดีที่ไม่เป็นไร ใครโทรหาแอนช่วงนี้ต้องทนกับเสียงแห่บพร่าหน่อยนะคะ ต้องขอโทษด้วยไม่สบายจริง ๆ อัพเดตบล็อกวันนี้ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ อยากฝากความปรารถนาดีให้กับอาจารย์และลูกค้าทุกท่าน ขอให้มีความสุขกันมาก ๆ นะคะ ขอให้สุขภาพดี อารมณ์ดี เหมือนกับอากาศช่วงนี้อากาศดีจริง ๆ ค่ะ (อยากขึ้นดอยจัง แต่งานต้องมาก่อนค่ะ ไม่ต้องห่วง )

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Cai ง่าย ๆ คว้ารางวัล Sipa Pitch 2008

สวัสดีค่ะ วันนี้พอนึกออกว่า เมื่อปีที่แล้วมีงาน Sipa Pitch 2008 ซึ่งดิฉันได้ไปร่วมงานด้วย แต่ไม่ได้ไปประกวดนะคะ ไปหาความรู้เฉย ๆ งานครั้งนี้รับผลงาน 3 ด้านค่ะ มีด้าน Animation ด้าน E-learning และด้าน Application ค่ะ เนื่องด้วยการคลุกคลีอยู่ในวงการ E-learning มานาน พอเพื่อนมาชวนก็เลยไปดูค่ะ ปรากฎว่า อันดับ 1 ในด้าน E-learning นั้น เป็นบริษัท เอกชนรายหนึ่ง ที่นำผลงานสุดเจ๋งเข้ามาประกวด แต่ มันเป็นผลงานที่ถูกว่าจ้างให้ทำขึ้น ด้วยงบประมาณมหาศาล มันจึง เจ๋งสุด ๆ เลยค่ะ นอกนั้นก็เป็นของพวกนักศึกษาบ้าง แต่มีอันนึงที่สะดุดตาสะดุดในค่ะ นั่นคือ ผลงานอาจารย์ 3 ที่สร้างด้วย Authorware ค่ะ ติดอันดับมากับเขาด้วย ซึ่งก็น่าแปลกในไม่น้อยค่ะ เพราะไม่คิดว่า cai ธรรมดา ๆ อันนึงจะคว้ารางวัลได้ ลูกเล่นต่าง ๆ แทบไม่มีเลย

วันนี้ดิฉันนั่งนึกถึงงานวันนั้น ก็คิดขึ้นมาได้ว่า จริง ๆ แล้วสื่อที่ดี คือสื่อที่ทรงประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องอลังการ สื่อธรรมดา ๆ นี่แหละ ก็เป็นสื่อที่ดีได้ ออกแบบสวย ๆ เสริมความรู้และทักษะให้เด็ก เรียนรู้อยากสนุกสนาน เท่านั้นก็ผ่านแล้วค่ะ

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แฉ มิจฉาชีพ อาชญกรออนไลน์

เปิดบล็อกใหม่ค่ะ รับทำ cai เนื้อหาค่อนข้างดิบ ๆ หน่อยนะคะ ไหน ๆ ก็เขียนไว้ที่บล็อกนู้นแล้วก็เลยมาเขียนที่นี่ด้วยค่ะ

อาชญากรออนไลน์ เป็นไงคะ ชื่อฟังดูดีมั๊ยคะ แต่พฤติกรรมนี่สุดเลวเลยล่ะค่ะ วันนี้ดิฉันจะขอแฉหมดเปลือกเลยล่ะค่ะ
ประสบการณ์พวกนี้ได้มาจากอาจารย์หลาย ๆ ท่านที่อกหัก ช้ำใจมาจากไอ้พวกเลว ๆ เหล่านั้นแหละค่ะ
- หลอกให้โอนเงินมาก่อน อันนี้ขอย้ำทุกท่านเลยนะคะ อย่าได้โอนเงินมาก่อน อย่าได้ไว้ใจใคร หากมันบอกว่าต้องวางมัดจำก่อน อย่าได้ทำเชียวนะคะ ใครไม่ทำโยนมาทางนี้ค่ะ ไม่มีมัดจำ
- พอโอนเสร็จมันก็หายเข้ากลีบเมฆเลยน่ะสิคะ
- หลอกว่าเป็นอาจารย์ สอนมหาลัยนู้น มหาลัยนี้ จำไว้เถอะค่ะ ในโลกออนไลน์ ใครจะพูดอะไรก็ได้ ผลงานด้านวิชาการส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยยอมรับแหล่งอ้างอิง จากอินเตอร์เน็ตไงล่ะคะ คนนึกจะเขียนก็เขียน
- ท่านต้องรู้โครงสร้าง CAI ว่ามีอะไรบ้าง ลงทะเบียน แบบทดสอบ ก่อนหลัง แบบฝึกหัด เนื้อหาบทเรียน ผู้จัดทำ วิเคราะห์ผลคะแนน
- หลอกว่าใช้ flash แต่จริง ๆ แล้วใช้ captivate ทำ อยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้ว program adobe captive นั้น มันมีข้อจำกัดที่ ดิฉันไม่ชอบหลาย ๆ อย่างค่ะ นอกจากจะง่ายดายในการใช้งานแล้ว มันไม่คุ้มค่าเลยสำหรับเงินหมื่นที่ต้องจ่ายออกไป เพราะงานที่ได้ออกมานั้น ใคร ๆ ก็ทำได้ แถมกีดกันจินตนาการของมนุษย์อีกด้วย ดูดี ๆ นะคะ
ยังมีอีกหลากหลายพฤติกรรม ค่ะ ดิฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในโลกไซเบอร์อันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ คงได้แต่กล่าวเตือนหากท่านใดได้อ่าน รบกวนเผยแพร่ข่าวสารนี้ด้วยนะคะ
ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ
แอน 0835666259

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

CAI Never Die

หลักการในการทำ CAI นั้น มีหลาย ๆ อย่างที่ละเอียดอ่อน แต่รูปแบบหลัก ๆ คือ
1.แบบทดสอบ ก่อน - หลังเรียน
2.ก็คงต้องเป็นเนื้อหา
3.แบบฝึกหัดแต่ละบท

ที่ต้องบอกว่ามันเป็นรูปแบบหลัก คือ มันต้องทำควบคู่ไปกับงานวิจัยใช่มั๊ยคะ
การที่จะบอกว่าสื่อเรามีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ก็คงต้องคำนวณค่าสถิติกันอย่างเดียว
บางท่านอาจจะใช้ SPSS เมื่อเรานำ CAI ของเราไปทดลองแล้ว ก็จะได้ผลที่เก็บได้จากการทดลองใช้
จากกลุ่มตัวอย่าง กรอกใส่ SPSS มันก็จะคำนวณให้

แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันมีความเข้าใจในการวิจัยอย่างยิ่ง ไม่ได้มาจากการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
แต่มันมาจากการใช้โปรแกรม SPSS ไม่ค่อยคล่องในสมัยก่อน ทำให้ต้องคำนวณด้วยมือ
ฉะนั้นพื้นฐานของความเข้าใจจึงบังเกิดขึ้น ครั้นพอใช้งาน SPSS ได้ ก็สบายแฮ...

อันนี้พอพูดถึงเรื่องของวิจัย ซึ่งอาจจะมีบางท่านที่ไม่อยากทำเอง ก็สอบถามกันเข้ามาได้ค่ะ
มีอะไรปรึกษากันได้ การพูดคุยสนทนา เหมือนการเปิดสมอง เปิดรับความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ดิฉันเชื่อเสมอว่าคนเราเก่งเท่า ๆ กัน

ย้อนกลับไปเรื่อง CAI อีกนิดค่ะ เมื่อรู้หลัก ๆ ของ CAI แล้วว่าต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้หรอกนะคะ อาจจะมีเกมส์ฝึกสมอง การ์ตูน วิดีโอ หรือเอกสารแนบให้ความรู้เพิ่มเติม ก็แล้วแต่คนออกแบบ รูปแบบการนำเสนอเนื้อหาต่างหากล่ะคะ ที่จะทำให้ผู้ใช้(User) เกิดความประทับใจในการใช้ CAI ว่าแล้วก็ติ๊กลงในช่องประเมินสื่อว่า "ผ่าน"

วันนี้ขอฝากเว็บไซต์ผลงานที่ผ่าน ๆ มานะคะ รับทำ e-learning คลิ๊กเข้าไปรับชมได้เลยค่ะ

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สื่อการเรียนการสอน cai

วันนี้แจ้งข่าวสารอัพเดตนะคะ เนื่องด้วยขณะนี้มีผู้สนใจทำ CAI มากขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ แต่ก็มีบางท่านสอบถามเข้ามาเรื่อง moodle คืออะไร moodle เป็นเครื่องมือสำคัญค่ะ สำหรับ WBI ส่วน WBI คืออะไร ก็เคยมีโพสต์ไว้แล้วนะคะ แล้ว Moodle ใช้กับ CAI ได้หรือไม่ ตอบ ได้ค่ะ สื่อการเรียนการสอน cai นั้นจะแตกต่างกับ WBI ตรงที่ CAI นั้นไม่ได้มีการจัดการฐานข้อมูลที่แน่ชัด ซึ่งบางครั้งก็จะเห็น CAI ทำงานกับฐานข้อมูล MS Access หรือ Mysql แต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก ๆ ค่ะ ส่เพราะถ้า CAI เน้นไปที่การเก็บข้อมูลมีฐานข้อมูลแล้วมันก็จะเลยคำนิยามของ CAI กลายเป็น WBI แทนค่ะ ทางทีมงานสามารถวางระบบ E-learning ด้วย LMS ที่ชื่อว่า Moodle ได้ค่ะ อธิบายคร่าว ๆ คือ มันคือระบบจัดการเรียนการสอน ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ผู้สอน นักเรียน เรียกว่า ทำมา 10 วิชาก็จับยัดลงไปเลยค่ะ มีระบบประมวลผล การทำข้อสอบ แบบฝึกหัด วัดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เรียงตัวกันเลยค่ะ สำหรับท่านที่ สนใจสร้างระบบ WBI ด้วย Moodle โทรมาปรึกษาได้นะคะ

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

CAI ล้าสมัยไปแล้วหรือ?

สวัสดีค่ะทุกท่านที่แวะเข้ามายังบล็อกแห่งนี้ เรียนทุกท่านนะคะว่าเรามีเว็บไซต์สำหรับโชว์ผลงานสามารถคลิ๊กไปดูได้ที่นี่ค่ะ >> รับทำ E-Learning << เป็นผลงานที่ผ่าน ๆ มา รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งค่ะ เนื่องจากเราเคารพในสิทธิของผู้ว่าจ้างเสมอ เราถือว่าผู้ว่าจ้างเป็นเจ้าของผลงาน จึงไม่นำผลงานของท่านมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตแน่นอนค่ะ จึงนำเสนอเพียงภาพนิ่ง ให้ท่านอื่น ๆ สามารถมองเห็นภาพโดยรวมได้ เอาล่ะค่ะ ตอนนี้เรามาพูดถึง หัวข้อของเราบ้างดีกว่า ตอนนี้ไปไหนมาไหน ก็มักจะได้ยินแต่คำว่า E-book เคยเขียนถึงหลายครั้งแล้วล่ะคะ ว่า E-book คืออะไร ตอนนี้ขอเปรียบเทียบคำนิยามของ E-book กับ CAI ละกันนะคะ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ข้อดีข้อด้อยของแต่ละอย่างคืออะไร

E-book ก็คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อาจจะสร้างมาอย่างสวยงามด้วยโปรแกรมต่าง ๆ flip album,flash flip หรือ โปรแกรมสร้าง E-book ตัวอื่น ๆ ขอไม่กล่าวถึงนะคะ รวมไปถึง ไฟล์ง่าย ๆ อย่าง pdf ก็ถือเป็น E-book ค่ะ ดิฉันคลุกคลีอยู่กับ E-book ฝรั่งเยอะ เพราะต้องหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ก็พบว่า E-book ที่พวกฝรั่งหัวทองใช้อ่านกันมันเป็น file pdf ง่าย ๆ นี่เองค่ะ

CAI คงไม่ต้องนิยามกันมากมาย แต่มันต่างกันยังไงกับ E-book แล้วทำไม คนจึงสนใจทำ E-book กันมากกว่า CAI

จริง ๆ แล้ว CAI ต่างกับ E-book นิดเดียวแต่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือ กระบวนการในการวัดผล จากสื่อนั่นเองค่ะ E-book ส่วนใหญ่ หรือแทบจะทั้งหมดนั่นหล่ะค่ะ จะไม่มีการวัดผลสัมฤทธิ์ หรือประสิทธิภาพของสื่อ กล่าวคือ คุณต้องวัดเอาเอง จากการทำแบบทดสอบข้างนอก เป็นกระดาษอะไรทำนองนี้ค่ะ ส่วน CAI ไม่ต้องกล่าวอะไรกันมาก CAI เป็นสื่อการเรียนการสอนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด รองจากหนังสือ อ๊ะ อ๊ะ ท่านผู้อ่านคงคิดว่า ยัยนี่เพี้ยนไปแล้วใช่มั๊ยคะ ไม่ผิดหรอกค่ะ รองลงมาจากหนังสือ ถูกที่สุดแล้ว อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ เพราะต่างคนต่างความคิด ดิฉันไม่ได้เทียบจากประสิทธิภาพของการใช้สื่อ แต่ดิฉันชอบหนังสือเพราะความผูกพัน ดิฉันชอบอ่านหนังสือ ทุกเวลา ตื่นนอนก็อ่าน นสพ. สาย ๆ ก็อ่านหนังสือเรียน บ่าย ๆ ก็อ่าน นสพ. ตกเย็นอ่านนิตยสารต่าง ๆ ก่อนนอนก็อ่านธรรมะ สวดมนต์ เดินทางไปไหนไกล ๆ มีหนังสือซักเล่ม ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ชอบคำพูดที่ว่า "หนังสือไม่ต้องใช้เทคโนโลยีในการเปิดอ่าน" แต่ถ้าพูดกันในเรื่องของประสิทธิภาพในการสอนแล้ว CAI คงมีภาษีดีกว่าเยอะค่ะ การออกแบบสื่อ มักจะมีคำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่ายที่สุด อันนี้เป็นหน้าที่ของผู้สร้าง CAI ทุกท่านค่ะ
สุดท้าย CAI ยังยิ่งใหญ่เสมอ เพราะว่า CAI ไม่ใช่ Authorware แต่ CAI คือ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

CAI มันคืออะไรกันแน่?


สวัสดีค่ะ คุณครู และนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนท่านผู้มีอุปการะทุกท่านนะคะ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ให้ทางทีมงาน e-learning-good.com ของเราได้มีโอกาสรับใช้ทุกท่านนะคะ สงกรานต์ ปีใหม่ไทยผ่านไป ช่วงนี้หลาย ๆ ท่านคงทยอยส่งผลงานอาจารย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วใช่้ไหมล่ะคะ ก็ขอเอาใจช่วย ให้ทุกท่าน ผ่านกันให้หมดเลยนะคะ
สำหรับวันนี้ อยากจะมาแนะนำท่าน อาจารย์ หรือนักเรียนนักศึกษา ท่านใดอยากรู้จัก CAI ตามมาดูได้เลยค่ะ

CAI ย่อมาจาก Computer Assisted Instruction แปลเป็นไทยได้ง่าย ๆ ตรงตัวเลยก็คือ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนั่นเอง ส่วนเรื่องประวัติความเป็นมา รู้สึกว่าจะเคยโพสต์เอาไว้แล้วนะคะ รบกวนลองหาโพสต์เก่า ๆ อ่านดูค่ะ CAI ณ ปีนี้ 2552 สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับตัวดิฉันเองนะคะ ถ้าถามว่า cai ล้าสมัยไปหรือไม่ ตอบได้คำเดียวค่ะ ว่า "ไม่" ทุก ๆ วันนี้ เทคโนโลยีก้าวไกลซะจน ตามไม่หวาดไม่ไหว ระบบการสื่อสาร มันทำลายกำแพง ทุก ๆ อย่างที่เคยมีมาบนโลกใบนี้ เช่น กำแพงภาษา ทุกวันนี้ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น แปลให้เป็นภาษาไทยเพียงแค่คลิกเมาส์ ก็อปปี้ เอาไปวางที่ http://google.com/translate ตัวแปลภาษาชั้นดีที่แปลได้แทบทุกภาษาแล้ว กำแพงแห่งความรัก เชื้อชาติ ความเชื่อ ตลอดจนอิทธิพลต่าง ๆ การแต่งกาย เสื้อผ้าหน้าผม แล้วก็เรื่องสำคัญ "การศึกษา" สมัยนี้ความรู้ ไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ห้องสมุด สนามกีฬา หรือท้องฟ้าจำลองอีกต่อไป ความรู้มีอยู่ทุกที่ แม้กระทั่งในอากาศที่เราหายใจเข้าไป ไม่ทราบว่าท่านได้กลิ่นความรุ้หรือไม่... ^__^
เอาล่ะค่ะ ที่เกริ่นมาเนี่ยก็เพื่อจะทำให้เราทราบถึงวิวัฒนาการของการสื่อสาร การศึกษาไร้พรมแดน แล้วไอ้ CAI ใส่แผ่น CD-ROM ธรรมดา มันจะไปสู้ E-learning ได้อย่างไร? คำถามพลิกโลก แต่ตอบง่ายมาก ๆ ถามว่าถ้าเอาลิงสู้กับ ช้าง ใครจะชนะ คำตอบนะเหรอคะ "ไม่แน่เสมอไปที่ช้างจะชนะ" ต้องถามว่า สู้กันที่อะไร พละกำลังเหรอ สู้ช้างไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นความเร็วล่ะ หรือ ความแคล่วคล่องว่องไว ลิง ก็เอาไหวเหมือนกันนะคะ
สรุป ... ชักงง ๆ ใช่มั๊ยคะ อยู่ดี ๆ ก็สรุปซะเฉยเลย CAI มีข้อได้เปรียบ อยู่หลาย ๆ แบบ ที่สื่อ อื่น ๆ สู้ได้ยาก เหมือนกรณี ลิงกับช้าง

1.CAI ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีมากมาย อินเตอร์เน็ตไม่ต้องใช้
2.CAI ใช้งานง่าย ใส่แผ่นปุ๊บเล่นปั๊บ
3.CAI มีหลากหลาย เบื่อวิชานี้ เปลี่ยนเป็นวิชานั้น
4.CAI ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ ต่างจาก WBI หรือ E-learning ที่อาจต้องใช้เงินแสน
5..........
ขอเว้นไว้ เผื่อใครอยากเติมค่ะ
CAI เป็นสื่อเสริมที่ดี สำหรับน้อง ๆ ที่ยากจน โรงเรียนห่างไกล หรือคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ แต่อย่างว่าล่ะค่ะ พอเขียนมาถึงตรงนี้ นึกขึ้นได้ ใช่ว่า พวกเด็กที่มีโอกาสหลาย ๆ คน อยู่กับเทคโนโลยีทุกวัน กลับใช้โอกาสเหล่านั้นไปทางที่ผิดซะนี่ เสียดายจริง ๆ