E-book ก็คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อาจจะสร้างมาอย่างสวยงามด้วยโปรแกรมต่าง ๆ flip album,flash flip หรือ โปรแกรมสร้าง E-book ตัวอื่น ๆ ขอไม่กล่าวถึงนะคะ รวมไปถึง ไฟล์ง่าย ๆ อย่าง pdf ก็ถือเป็น E-book ค่ะ ดิฉันคลุกคลีอยู่กับ E-book ฝรั่งเยอะ เพราะต้องหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ก็พบว่า E-book ที่พวกฝรั่งหัวทองใช้อ่านกันมันเป็น file pdf ง่าย ๆ นี่เองค่ะ
CAI คงไม่ต้องนิยามกันมากมาย แต่มันต่างกันยังไงกับ E-book แล้วทำไม คนจึงสนใจทำ E-book กันมากกว่า CAI
จริง ๆ แล้ว CAI ต่างกับ E-book นิดเดียวแต่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือ กระบวนการในการวัดผล จากสื่อนั่นเองค่ะ E-book ส่วนใหญ่ หรือแทบจะทั้งหมดนั่นหล่ะค่ะ จะไม่มีการวัดผลสัมฤทธิ์ หรือประสิทธิภาพของสื่อ กล่าวคือ คุณต้องวัดเอาเอง จากการทำแบบทดสอบข้างนอก เป็นกระดาษอะไรทำนองนี้ค่ะ ส่วน CAI ไม่ต้องกล่าวอะไรกันมาก CAI เป็นสื่อการเรียนการสอนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด รองจากหนังสือ อ๊ะ อ๊ะ ท่านผู้อ่านคงคิดว่า ยัยนี่เพี้ยนไปแล้วใช่มั๊ยคะ ไม่ผิดหรอกค่ะ รองลงมาจากหนังสือ ถูกที่สุดแล้ว อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ เพราะต่างคนต่างความคิด ดิฉันไม่ได้เทียบจากประสิทธิภาพของการใช้สื่อ แต่ดิฉันชอบหนังสือเพราะความผูกพัน ดิฉันชอบอ่านหนังสือ ทุกเวลา ตื่นนอนก็อ่าน นสพ. สาย ๆ ก็อ่านหนังสือเรียน บ่าย ๆ ก็อ่าน นสพ. ตกเย็นอ่านนิตยสารต่าง ๆ ก่อนนอนก็อ่านธรรมะ สวดมนต์ เดินทางไปไหนไกล ๆ มีหนังสือซักเล่ม ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ชอบคำพูดที่ว่า "หนังสือไม่ต้องใช้เทคโนโลยีในการเปิดอ่าน" แต่ถ้าพูดกันในเรื่องของประสิทธิภาพในการสอนแล้ว CAI คงมีภาษีดีกว่าเยอะค่ะ การออกแบบสื่อ มักจะมีคำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่ายที่สุด อันนี้เป็นหน้าที่ของผู้สร้าง CAI ทุกท่านค่ะ
สุดท้าย CAI ยังยิ่งใหญ่เสมอ เพราะว่า CAI ไม่ใช่ Authorware แต่ CAI คือ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
Tags: